Posted in

10 ที่เที่ยวธรรมชาติปราจีนบุรี สัมผัสความเขียวขจี สูดอากาศสดชื่น

ที่เที่ยวธรรมชาติปราจีนบุรี

ถ้าคุณกำลังมองหาที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพ ที่ให้ทั้งความสงบ สดชื่น และไม่วุ่นวายเกินไป — ที่เที่ยวธรรมชาติปราจีนบุรี คือหนึ่งในตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ด้วยระยะทางเพียง 2-3 ชั่วโมงจากกรุงเทพ คุณจะได้พบกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง น้ำตกสวย ป่าเขาอากาศดี และจุดชมวิวที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์

ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ 10 ที่เที่ยวธรรมชาติปราจีนบุรี ที่เหมาะสำหรับสายชิลล์ รักธรรมชาติ และอยากสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด พร้อมข้อมูลการเดินทางและข้อแนะนำต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ทริปของคุณง่ายขึ้น!


🌿 10 ที่เที่ยวธรรมชาติในปราจีนบุรี ที่ไม่ควรพลาด

🏞️ น้ำตกเขาอีโต้ – น้ำตกสวยใกล้ตัวเมืองปราจีนบุรี

น้ำตกเขาอีโต้ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนปราจีนบุรี โดยเฉพาะสายธรรมชาติที่ชอบความสงบและบรรยากาศเขียวขจี น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งปราจีนบุรี ห่างจากตัวเมืองเพียงประมาณ 8 กิโลเมตร ทำให้เดินทางสะดวก เหมาะกับการไปเช้าเย็นกลับ หรือจะค้างคืนก็ได้บรรยากาศดีไม่แพ้กัน

น้ำตกมีทั้งหมด 4 ชั้น แต่ละชั้นสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีเส้นทางเดินป่าระยะสั้นที่ไม่ชันมาก เหมาะกับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนถึงต้นฤดูหนาว (ประมาณเดือนกรกฎาคม – พฤศจิกายน) น้ำจะไหลแรงและสวยงามเป็นพิเศษ

📸 จุดเด่นของน้ำตกแห่งนี้คือ ความร่มรื่นของป่าเบญจพรรณ ที่รายล้อมตลอดทางเดิน นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งเล่นปิกนิก ถ่ายภาพ หรือแม้แต่เล่นน้ำเบา ๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน ที่บริเวณใกล้น้ำตกยังมี จุดชมวิวเขาอีโต้ ซึ่งสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองปราจีนบุรีในมุมกว้างได้แบบสุดลูกหูลูกตา

📍 ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่ตั้ง: ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
  • เวลาเปิด-ปิด: ทุกวัน 8.00 – 17.00 น.
  • ค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท (รวมค่าเข้าอุทยาน)

🌲 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ฝั่งปราจีนบุรี) – ธรรมชาติสมบูรณ์ใกล้แค่เอื้อม

เมื่อพูดถึง เขาใหญ่ หลายคนอาจนึกถึงฝั่งนครราชสีมาเป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่า ฝั่งปราจีนบุรี เองก็เป็นอีกหนึ่งทางเข้าที่งดงามไม่แพ้กัน ด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เส้นทางท่องเที่ยวสงบ และมีความเป็น “เขาใหญ่” แบบออริจินัลให้สัมผัสแบบเต็ม ๆ

ทางเข้าฝั่งปราจีนบุรี เริ่มต้นจากด่านเนินหอม อำเภอเมืองปราจีนบุรี เป็นเส้นทางที่สวยงาม ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขียวชอุ่ม หากโชคดีอาจได้เห็นสัตว์ป่าข้ามถนน เช่น กวาง หมี หรือช้างป่า (แนะนำให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง)

🌿 ไฮไลต์ของเขาใหญ่ฝั่งปราจีนบุรี

  • เส้นทางเดินป่าแบบธรรมชาติ
    มีทั้งเส้นสั้น (1-2 กม.) และเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เหมาะสำหรับมือใหม่ เช่น เส้นทางน้ำตกเหวสุวัต (จากฝั่งปราจีนสามารถเดินข้ามเขาไปชมได้)
  • จุดชมวิวผากล้วยไม้
    จุดชมวิวที่ขึ้นชื่อเรื่องพระอาทิตย์ขึ้นและสายหมอกยามเช้า ใครที่ชอบถ่ายภาพสายหมอก นี่คือพิกัดห้ามพลาด
  • สัตว์ป่าหลากหลายชนิด
    เขาใหญ่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนถึงต้นหนาว จะมีนกหายากและผีเสื้อสีสันสดใสให้ได้ชม
  • กิจกรรมแคมป์ปิ้ง
    ลานกางเต็นท์บริเวณฝั่งปราจีนถือว่าเงียบสงบกว่าฝั่งนครราชสีมา เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนแบบจริงจังท่ามกลางป่าใหญ่

📍 ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่ตั้งด่านเนินหอม: ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
  • เวลาเปิด–ปิด: 06.00 – 18.00 น.
  • ค่าเข้าอุทยาน:
    • ผู้ใหญ่ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
    • รถยนต์ 50 บาท

📌 เหมาะกับใคร?

  • สายรักธรรมชาติและการผจญภัยเบา ๆ
  • ผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย
  • ครอบครัวที่อยากพาเด็กมาเรียนรู้ธรรมชาติแบบใกล้ชิด

🌊 ล่องแก่งหินเพิง – ผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติแบบสุดมันส์

ถ้าคุณเป็นสายลุย ชอบความตื่นเต้นแบบเอ็กซ์ตรีมเบา ๆ ต้องห้ามพลาดกับกิจกรรม ล่องแก่งหินเพิง ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน กิจกรรมผจญภัยชื่อดังของปราจีนบุรี ที่จะพาคุณล่องผ่านแก่งหินธรรมชาติท่ามกลางป่าดิบเขาและเสียงสายน้ำที่ไหลเชี่ยว เป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุก มันส์ และใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ

ล่องแก่งหินเพิง ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านนา อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยเส้นทางล่องแก่งจะมีความยาวประมาณ 3-4.5 กิโลเมตร ผ่านแก่งระดับความยากตั้งแต่ระดับ 1 ถึงระดับ 5 ซึ่งเหมาะกับนักผจญภัยมือใหม่ไปจนถึงมือเก๋าเลยทีเดียว

🚣‍♂️ ไฮไลต์ของการล่องแก่งหินเพิง

  • ✅ ผ่าน แก่งหินธรรมชาติ ทั้งเล็กและใหญ่ รวมกว่า 7-10 แก่ง ให้ความตื่นเต้นเร้าใจทุกช่วง
  • ✅ มี เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่เคยล่องแก่งมาก่อน
  • ✅ เส้นทางล่องผ่าน ป่าธรรมชาติและลำน้ำใส บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับสายธรรมชาติ
  • ✅ มีบริการ แพคเกจทัวร์พร้อมอาหารและอุปกรณ์ จากผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายเจ้า

🗓️ ช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่ง

  • กรกฎาคม – ตุลาคม (หน้าฝน): เป็นช่วงที่น้ำแรง เหมาะสำหรับล่องแก่งที่สุด
  • หากมาในช่วงอื่น น้ำอาจน้อย ไม่สามารถล่องได้ตลอดทั้งปี

📍 ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ที่ตั้ง: ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
  • ระยะเวลาในการล่อง: ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง
  • ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ: เริ่มต้น 500–800 บาท/คน (ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ)

📸 เหมาะกับใคร?

  • สายลุย ผจญภัย ชอบความตื่นเต้น
  • กลุ่มเพื่อนที่อยากหากิจกรรมมันส์ ๆ ทำร่วมกัน
  • คนที่อยากสัมผัสธรรมชาติแบบแอคทีฟ

🌿 วังน้ำเขียว (โซนปราจีนบุรี) – เขียว สดชื่น และสงบกว่าเดิม

หลายคนอาจคุ้นชื่อ วังน้ำเขียว กับฝั่งจังหวัดนครราชสีมา แต่รู้ไหมว่า วังน้ำเขียวฝั่งติดปราจีนบุรี เองก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน แถมยังเงียบสงบกว่าด้วย! ที่นี่คือแหล่งโอโซนอันดับต้น ๆ ของประเทศ รายล้อมด้วยขุนเขา ไร่ชา ไร่องุ่น และอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง

แม้พื้นที่หลักของวังน้ำเขียวจะอยู่ในโคราช แต่ถ้าขับรถจากอำเภอ นาดี หรือ กบินทร์บุรี ในปราจีนบุรี ก็สามารถเข้าสู่โซนวังน้ำเขียวได้ในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง เส้นทางดี วิวสวย และมีจุดเช็คอินให้แวะตลอดทาง

🏡 กิจกรรมที่แนะนำในวังน้ำเขียว (ฝั่งปราจีนบุรี)

  • 🛖 พักรีสอร์ทกลางหุบเขา – รีสอร์ทโซนปราจีนราคาย่อมเยากว่าฝั่งโคราช แต่ได้วิวธรรมชาติไม่แพ้กัน
  • 🚶‍♀️ เดินชมสวนดอกไม้ ไร่เกษตรอินทรีย์ – มีฟาร์มเปิดให้เข้าชม พร้อมกิจกรรมเชิงเกษตร
  • 📷 ถ่ายรูปกับวิวทะเลหมอกยามเช้า – ฤดูหนาวเป็นช่วงที่วิวดีที่สุด เหมาะมากกับสายถ่ายภาพ
  • จิบกาแฟในคาเฟ่กลางเขา – มีคาเฟ่ซ่อนตัวตามทางขึ้นเขาหลายแห่ง บรรยากาศดี วิวปัง

🗓️ ไปช่วงไหนดี?

  • ตุลาคม – กุมภาพันธ์: เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย และมีทะเลหมอกให้ชมตอนเช้า
  • หน้าฝน (กรกฎาคม – กันยายน): เขียวชอุ่ม สดชื่น เหมาะกับสายธรรมชาติสุด ๆ

📍 ที่ตั้ง & การเดินทาง

แนะนำให้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จะสะดวกและมีจุดแวะหลายแห่งระหว่างทาง จาก อ.กบินทร์บุรี / อ.นาดี ใช้เส้นทางหลวง 304 ขึ้นเขาไปยังโซนวังน้ำเขียว

💡 เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากพักผ่อนช้า ๆ ชิลล์ ๆ
  • คู่รักที่มองหาที่พักโรแมนติก
  • ครอบครัวที่อยากพาเด็กใกล้ชิดธรรมชาติ
  • สายถ่ายรูป / คาเฟ่ฮอปเปอร์ / ฟีลแคมป์เบา ๆ

💧 น้ำตกธารรัตนา – ที่เที่ยวธรรมชาติสุดเงียบ เหมาะกับสายชิลล์

ถ้าคุณกำลังมองหา น้ำตกเงียบ ๆ บรรยากาศธรรมชาติ ไม่วุ่นวาย แนะนำให้ลองมาที่ น้ำตกธารรัตนา ซึ่งตั้งอยู่ในเขตตำบลนาแขม อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่นี่ถือเป็นน้ำตกขนาดกลางที่ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวรู้จักมากนัก จึงเหมาะมากกับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายของสถานที่ยอดนิยม

น้ำตกธารรัตนา เป็นน้ำตกหินธรรมชาติที่มีน้ำไหลผ่านลานหินกว้าง มีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่โดยรอบ สามารถนั่งเล่น พักผ่อน หรือจะลงเล่นน้ำก็ได้ น้ำไม่ลึกมาก เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุเช่นกัน

🍃 จุดเด่นของน้ำตกธารรัตนา

  • น้ำใส ไหลเย็น บรรยากาศสงบมาก เหมาะกับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์
  • ลานหินกว้าง มีพื้นที่ให้นั่งเล่น/ปิกนิก
  • เป็นน้ำตกที่ยัง “ไม่แมส” จึงไม่มีเสียงดังหรือผู้คนพลุกพล่าน
  • อยู่ไม่ไกลจากชุมชน สามารถแวะซื้อของกินในตลาดท้องถิ่นก่อนได้

📍 การเดินทาง

  • ที่ตั้ง: ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
  • ขับรถจากตัวเมืองกบินทร์บุรีประมาณ 30-40 นาที
  • ไม่มีค่าเข้าชม / จอดรถฟรี
    (หมายเหตุ: ไม่มีบริการร้านอาหารหรือร้านค้า ควรเตรียมของมาเอง)

🗓️ ช่วงเวลาที่ควรไป

  • ช่วงกรกฎาคม – ตุลาคม: เป็นหน้าฝน น้ำจะเย็นและใส เหมาะกับการเล่นน้ำ
  • หน้าหนาวน้ำจะน้อย แต่อากาศเย็นสบาย เงียบสงบเหมาะกับการมานั่งชิลล์

☘️ เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากหามุมสงบ ๆ พักผ่อนใกล้ธรรมชาติ
  • สายถ่ายภาพ / สายธรรมชาติ / Minimal Traveler
  • ครอบครัวที่มีเด็กหรือผู้สูงอายุ
  • คนที่ชอบเที่ยวน้ำตกแบบ “ไม่ต้องแย่งที่ใคร”

🎍 สวนพันธุ์ไผ่ – เที่ยวธรรมชาติ เรียนรู้วิถีชีวิตอย่างยั่งยืน

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับ “ไผ่” พืชสารพัดประโยชน์ ที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยวที่ สวนพันธุ์ไผ่ ในอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ที่นี่ไม่ใช่แค่สวนต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ และคนรุ่นใหม่ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ (Agrotourism)

🍃 จุดเด่นของสวนพันธุ์ไผ่

  • ✅ รวม พันธุ์ไผ่กว่า 50 สายพันธุ์ ทั้งของไทยและต่างประเทศ เช่น ไผ่ซางหม่น, ไผ่บงหวาน, ไผ่เลี้ยง, ไผ่หม่าจู ฯลฯ
  • ✅ เรียนรู้เรื่อง การแปรรูปไผ่ ทั้งด้านอาหาร เครื่องใช้ และของตกแต่งบ้าน
  • ✅ มีโซน กิจกรรมเวิร์กช็อป เช่น ทำผลิตภัณฑ์จากไผ่, สาธิตการเพาะปลูกแบบอินทรีย์
  • ✅ เหมาะกับการพาเด็ก ๆ มาเปิดโลกธรรมชาติ เสริมสร้างจินตนาการ

🏡 บรรยากาศ

สวนเงียบสงบ มีทางเดินชมสวนที่ร่มรื่นตลอดทาง เหมาะกับคนที่อยากหลีกหนีจากความวุ่นวาย และต้องการใช้เวลาช้า ๆ กับธรรมชาติ อากาศดีตลอดปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว

📍 ข้อมูลการเดินทาง

  • ที่ตั้ง: ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
  • เวลาเปิด: ทุกวัน 08.30 – 17.00 น.
  • ค่าเข้าชม: ฟรี (บางกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายตามจริง)

🗓️ ไปช่วงไหนดี?

  • ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ หน้าฝน – หน้าหนาว (ก.ค.–ม.ค.) บรรยากาศจะเขียวชอุ่ม เย็นสบาย

☘️ เหมาะกับใคร?

  • ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก
  • นักเรียน นักศึกษา สายสิ่งแวดล้อม
  • คนที่สนใจการใช้ชีวิตแบบพอเพียง
  • สาย Slow life / ชอบเที่ยวธรรมชาติแบบมีสาระ

🏞️ เขาไม้แก้ว – จุดชมวิวธรรมชาติสุดชิลล์

หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่สามารถหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ เขาไม้แก้ว ในปราจีนบุรี ถือเป็นจุดหมายที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่น ด้วยความเงียบสงบและวิวที่สวยงามจากจุดชมวิวบนยอดเขา ที่นี่เหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าหรือขับรถขึ้นไปสัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์

เขาไม้แก้ว ตั้งอยู่ในเขตอำเภอ นาดี จังหวัดปราจีนบุรี โดยที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติ และเต็มไปด้วยพืชพันธุ์และสัตว์ป่าหลายชนิด

🌳 ไฮไลต์ของเขาไม้แก้ว

  • จุดชมวิวบนยอดเขา: จากยอดเขาสามารถมองเห็นวิวของอำเภอนาดีและทิวเขาใหญ่ได้อย่างกว้างไกล เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและชมทิวทัศน์ธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร
  • เส้นทางเดินป่า: เส้นทางเดินป่าที่ไม่ยาวมาก แต่มีบรรยากาศร่มรื่น ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกับธรรมชาติบริสุทธิ์
  • แหล่งดูนกและสัตว์ป่า: หากโชคดี คุณอาจได้เห็นนกหายากหรือสัตว์ป่าข้ามเส้นทาง เช่น กวาง หรือกระทิง
  • เหมาะกับการตั้งแคมป์: หากคุณชื่นชอบการแคมป์ปิ้งกลางธรรมชาติที่ไม่พลุกพล่าน เขาไม้แก้วเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ควรลอง

🗺️ การเดินทาง

  • ที่ตั้ง: ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
  • การเดินทาง: ขับรถจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 30-40 นาที เส้นทางเข้าไปจะมีป้ายบอกทางชัดเจน

🗓️ ช่วงเวลาที่แนะนำ

  • หน้าฝน (กรกฎาคม-ตุลาคม): เหมาะกับการชมป่าเขียวขจี น้ำตกไหลแรง
  • หน้าหนาว (พฤศจิกายน-มกราคม): อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการตั้งแคมป์หรือเดินป่าชมธรรมชาติ

🌿 เหมาะกับใคร?

  • นักท่องเที่ยวที่ชอบความสงบและการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ
  • นักเดินป่าและนักผจญภัย
  • กลุ่มครอบครัวที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบแคมป์ปิ้ง
  • คนที่อยากถ่ายภาพวิวธรรมชาติและสัตว์ป่า

🏕️ วนอุทยานเขาอีโต้ – จุดแคมป์ วิวดี ใกล้กรุงเทพ

ถ้าคุณอยากเที่ยวธรรมชาติแบบครบ ๆ ทั้งเดินป่า ดูพระอาทิตย์ขึ้น พักแคมป์ และเล่นน้ำตก ที่เดียวที่ตอบโจทย์ได้ทุกกิจกรรมคือ “วนอุทยานเขาอีโต้” ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ไม่ไกลจากตัวเมืองและเดินทางสะดวกสุด ๆ ที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์กทางธรรมชาติที่โดดเด่นของจังหวัด และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์เบา ๆ ไปจนถึงครอบครัวที่อยากมานอนดูดาวท่ามกลางธรรมชาติ

📌 ไฮไลต์ของวนอุทยานเขาอีโต้

  • 🌅 จุดชมวิวผาหินซ้อน – จุดยอดนิยมสำหรับดูพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาว มองเห็นวิวเมืองปราจีนบุรีแบบพาโนรามา
  • 🚶‍♂️ เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ – ระยะสั้นเหมาะสำหรับมือใหม่ ปลอดภัย เดินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
  • 💧 ใกล้น้ำตกเขาอีโต้ – สามารถเดินจากจุดกางเต็นท์ไปเล่นน้ำตกได้ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
  • 🏕️ จุดกางเต็นท์วิวภูเขา – ลานกางเต็นท์กว้าง มีห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ (เหมาะทั้งมือใหม่และสายแคมป์ตัวจริง)

🗺️ ข้อมูลทั่วไป

  • ที่ตั้ง: ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
  • ระยะทางจากกรุงเทพฯ: ประมาณ 2 ชั่วโมง
  • เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 18.00 น. (สามารถค้างคืนได้ในพื้นที่กำหนด)
  • ค่าเข้าชม: ไม่มีค่าเข้า (ค่าเช่าเต็นท์หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ มีให้บริการ)

🗓️ ไปช่วงไหนดี?

  • ฤดูหนาว (พ.ย. – ม.ค.): อากาศเย็น เหมาะกับการแคมป์ + ชมทะเลหมอก
  • หน้าฝน (ก.ค. – ก.ย.): น้ำตกสวย เขียวชอุ่มสุด ๆ เหมาะกับคนรักธรรมชาติ

🌿 เหมาะกับใคร?

  • คนที่อยากแคมป์ใกล้กรุงเทพแต่บรรยากาศเหมือนภาคเหนือ
  • ครอบครัวที่อยากให้ลูกได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
  • สายเดินป่า/ชิลวิว/นอนเต็นท์
  • คนที่อยากถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นหรือหมอกตอนเช้า

🌺 สวนพฤกษศาสตร์ปราจีนบุรี – ธรรมชาติ + ความรู้ ในที่เดียวกัน

หากคุณเป็นสายเที่ยวที่ชอบธรรมชาติแบบมีสาระ หรืออยากหาสถานที่เรียนรู้ที่ ทั้งสวย ทั้งสงบ และเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้แปลกตา แนะนำให้มาที่ สวนพฤกษศาสตร์ปราจีนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอศรีมหาโพธิ ที่นี่เป็นแหล่งอนุรักษ์พันธุ์พืชและพรรณไม้หายาก รวมถึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์ที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี

ที่นี่ไม่เพียงเหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป หรือพักผ่อนท่ามกลางต้นไม้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมเสริม เช่น เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและนิทรรศการพืชท้องถิ่นที่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่

🌳 จุดเด่นของสวนพฤกษศาสตร์ปราจีนบุรี

  • 🪴 รวมพันธุ์ไม้มากกว่า 1,000 ชนิด ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ สมุนไพรไทย และพืชเศรษฐกิจ
  • 🍀 เส้นทางศึกษาธรรมชาติ มีป้ายให้ความรู้ตลอดทาง เหมาะกับครอบครัวและกลุ่มนักเรียน
  • 📸 มุมถ่ายภาพกับเรือนกระจกและไม้ดอกเมืองร้อน ที่กำลังฮิตในหมู่สาย IG
  • 🌿 พื้นที่กว้างขวาง เดินเล่นได้ทั้งวัน อากาศดี ร่มรื่น ใกล้แหล่งชุมชน
  • 🪵 บางช่วงมี กิจกรรมเชิงอนุรักษ์ เช่น ปลูกต้นไม้ แสดงผลิตภัณฑ์จากพืชสมุนไพร

🗺️ การเดินทาง

  • ที่ตั้ง: ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
  • เปิดทุกวัน: 08.00 – 17.00 น.
  • ค่าเข้าชม: ฟรี (อาจมีค่ากิจกรรมบางอย่างในงานเฉพาะกิจ)

🗓️ ไปช่วงไหนดี?

  • ช่วงปลายฝนต้นหนาว (ต.ค. – ม.ค.): พืชพรรณเบ่งบานเต็มสวน บรรยากาศชุ่มชื้น
  • หน้าร้อน: มีร่มไม้เยอะ เดินเล่นได้ทั้งวันไม่ร้อนมาก

☘️ เหมาะกับใคร?

  • ครอบครัวที่พาเด็กมาเรียนรู้นอกห้องเรียน
  • นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติที่ชอบเดินชิลล์ ๆ
  • คนที่อยากได้ภาพถ่ายสวย ๆ คู่กับเรือนกระจกหรือไม้ดอก
  • กลุ่มทัวร์เชิงอนุรักษ์ / โรงเรียน / นักศึกษาที่จัดกิจกรรมภาคสนาม

🚴‍♂️ เส้นทางจักรยานคลองรั้ง – ปั่นชิลล์ ชมธรรมชาติ บรรยากาศดีตลอดทาง

สำหรับสายปั่นที่ชอบความสงบ ไม่เร่งรีบ และอยากชมธรรมชาติไปพร้อมกับการออกกำลังกาย “เส้นทางจักรยานคลองรั้ง” ในอำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี คือหนึ่งในเส้นทางที่ทั้งสวยและปลอดภัย เหมาะกับทั้งมือใหม่และนักปั่นสายท่องเที่ยว

เส้นทางนี้มีความยาวประมาณ 15 กิโลเมตร ลัดเลาะเลียบคลองและผืนป่า มีจุดพักให้แวะชมวิว ถ่ายรูป หรือพักกินน้ำเป็นระยะ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมาะทั้งกับการปั่นแบบชิลล์ ๆ หรือจะใช้ฝึกปั่นทางไกลก็ได้เช่นกัน

🛤️ จุดเด่นของเส้นทางจักรยานคลองรั้ง

  • 🚴‍♀️ เส้นทางเรียบ ปลอดภัย มีป้ายบอกตลอดทาง เหมาะกับทั้งมือใหม่และครอบครัว
  • 🌳 วิวธรรมชาติเลียบคลองรั้ง สองข้างทางเป็นป่าโปร่ง มีเสียงนก เสียงแมลง เพิ่มความเพลิดเพลินในการปั่น
  • 🛑 จุดพักชมวิวและศาลานั่งเล่น กระจายเป็นจุด ๆ ตลอดเส้นทาง
  • 📷 มีจุดถ่ายรูปหลายจุด เช่น สะพานข้ามคลอง จุดชมวิวแนวต้นไผ่ และลานป่าโล่งที่สวยมากตอนพระอาทิตย์ตก

📍 ข้อมูลการเดินทาง

  • ที่ตั้ง: ต.คลองรั้ง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
  • จุดเริ่มต้นยอดนิยม: วัดคลองรั้ง หรือหน้าโรงเรียนบ้านคลองรั้ง
  • ระยะทาง: ประมาณ 12–15 กิโลเมตร (ไป-กลับ)
  • ค่าเข้า: ไม่มีค่าใช้จ่าย (นำจักรยานมาเอง หรือเช่าได้จากจุดบริการบางแห่งในตัวอำเภอ)

🗓️ ไปช่วงไหนดี?

  • เช้า / เย็น: อากาศไม่ร้อน แดดกำลังดี วิวสวยโดยเฉพาะช่วงเย็น
  • ปลายฝนต้นหนาว (ต.ค. – ธ.ค.): ธรรมชาติรอบ ๆ จะเขียวสด สวยมาก และอากาศเย็นสบาย

👥 เหมาะกับใคร?

  • นักปั่นทุกระดับ (มือใหม่ – ระดับกลาง)
  • ครอบครัว / กลุ่มเพื่อนที่อยากหากิจกรรมกลางแจ้ง
  • คนที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย ไปพักใจกับธรรมชาติ
  • นักท่องเที่ยวสายแอดเวนเจอร์เบา ๆ ที่ชอบบรรยากาศแบบ local

หากคุณกำลังวางแผนเดินทาง เพื่อค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ TIEWDEE , ที่เที่ยวหัวหิน 2025 และสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ ลองเยี่ยมชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวที่ใหญ่และเชื่อถือได้ www.traveloka.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *